เห็ดเมา (Psychedelic) คืออะไร – หลักการทำงานของเห็ดวิเศษ

เห็ดเมา คือ

เห็ดเมาหรือที่เรียกว่าเห็ดวิเศษ(Magic mushroom) คือเห็ดเชื้อราที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งนิยมกินเข้าไปเพื่อผลลัพธ์ในด้านเปลี่ยนแปลงจิตใจ โดยเห็ดเมาจัดอยู่ในประเภทสารที่ทำให้เคลิบเคลิ้มหลอนประสาท(Psychedelic) มีอิทธิพลต่อการรับรู้ทางประสาทสัมผัสในร่างกายของผู้รับสาร อาจส่งผลต่อสถานะทางอารมณ์ เห็นภาพหลอน และการรับรู้เวลาที่ผิดเพี้ยน ซึ่งจะออกฤทธิ์ไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคลที่รับสาร

ผู้รับประสาทเห็ดเมาจะเกิด “ภาวะ Psychedelic” กล่าวคือ ทำให้เกิดภาพหลอน กระตุ้นให้บุคคลเห็นหรือได้ยินสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงหรือรับรู้ในลักษณะที่บิดเบี้ยว

ส่วนประกอบสำคัญของเห็ดวิเศษคือ สารไซโลไซบิน(Psilocybin) เมื่อบริโภคเข้าไป ไซโลไซบินจะถูกเผาผลาญภายในร่างกายเป็นไซโลซิน(psilocin) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ทางจิต

ลักษณะทางกายภาพของเห็ดเมา

เห็ดเมา มีลํกษณะรูปร่างคล้ายคลึงกับเห็ดทั่วไป หากแต่มีหลายชนิด โดยสายพันธ์ของเห็ดเมาวิเศษที่แพร่หลายที่สุดในออสเตรเลียคือ 1.golden tops 2.blue meanies หรือ 3.liberty caps หากแต่รูปร่างของเห็ดทั้ง 3 สายพันธ์นี้ อาจคล้ายกับเห็ดมีพิษ ซึ่งหากคุณเลือกใช้ผิดอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยที่รุนแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้

โดยเห็ดเมานั้นส่วนมากจะถูกจัดเก็บในรูปแบบ เห็ดแห้ง หรือเป็นน้ำมันสังเคราะห์ ผงขาวเห็ดเมา  แคปซูล หรือสารละลายในน้ำได้

ชื่ออื่นๆของเห็ดเมา

เห็ดขี้ควาย, เห็ดวิเศษ, เห็ดเมา, Magic mushroom, Psilocybe cubensis และอื่นๆ

วิธีการบริโภค/เสพ

เห็ดเมาสามารถรับประทานสดได้ทันที ภายใน 3-5 วันหลังเก็บเกี่ยว เพื่อให้ฤทธิ์ของสาร Psychedelic เต็มประสิทธิภาพที่สุด หรือในบางกรณีจะถูกเก็บรักษาด้วยวิธีการถนอมอาหาร เช่น อบแห้งหรือตากแห้ง เพื่อยืดระยะเวลาเก็บรักษาให้ยาวนานขึ้นก็ได้เช่นกัน และสำหรับในต่างประเทศได้มีการผสมในอาหาร หรือชงเป็นชา บางครั้งรูปแบบเห็ดแห้งจะสามารถสูบควันได้โดยมักผสมกับกัญชาหรือยาสูบทั่วไป

อาการของเห็ดเมา

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าการใช้สารเสพติดใด ๆ โดยไม่คำนึงถึงปริมาณที่รับสาร ย่อมมีความเสี่ยง โดยผลกระทบของเห็ดเมานั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น สุขภาพร่างกาย น้ำหนักตัว ปริมาณการบริโภคสารอื่นๆร่วมด้วย(ผสม) ปริมาณที่ได้รับ ประสิทธิภาพ อายุของเห็ด และสภาพแวดล้อมที่ใช้เห็ด

อาการหลังรับประทานเห็ดเมา มักเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที หากรับประทานเห็ดด้วยวิธีการกิน ซึ่งภาวะ Psychedelic จะคงอยู่ประมาณ 10-16 ชั่วโมง

ในช่วงเวลานี้ ผู้ใข้เห็ดเมาอาจประสบกับผลกระทบต่างๆ ในเชิงบวก(Good Trip)ได้แก่ ความรู้สึกสบาย การเปลี่ยนแปลงของจิตใต้สำนึก อารมณ์ ความคิด และการรับรู้ รูม่านตาขยาย ประสาทหลอนทางสายตาและหู

และผลกระทบทางลบแบดทริป(Bad Trip) ได้แก่ ไม่สบายและคลื่นไส้ ปวดศีรษะ หัวใจเต้นผิดปกติ อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น หายใจเร็ว อาเจียน หน้าแดง เหงื่อออก และหนาวสั่น รวมไปถึง อาการประสาทหลอนอย่างรุนแรง วิตกกังวล หวาดระแวง ตื่นตระหนกหรือหวาดกลัว

การใช้เห็ดเมาเกินขนาด (โอเวอร์โดส)

บางท่านกำลังสงสัยว่า เห็ดมาอันตรายไหม? และอันตรายอย่างไร จากการทดลองของเรา พบว่าการใช้เห็ดเมาเกินขนาด(Over Dose) มักนำคุณสู่สถานการณ์ที่คุกคามถึงชีวิตได้ยาก แต่การบริโภคในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการกระสับกระส่าย อาเจียน ท้องร่วง กล้ามเนื้ออ่อนแรง หวาดระแวง โรคจิต ชัก หรือแม้แต่อาการโคม่า(อันตราย)

อาการคงค้างหลังใช้เห็ดเมา

หลังจากบริโภคเห็ดเมาแล้ว ผู้ใช้อาจมีอาการปวดหัวแบบหน่วงๆ แม้ว่าโดยปกติแล้วอาการจะไม่คงอยู่เกิน 1 วัน ความรู้สึกอ่อนเพลีย ซึมเศร้า และวิตกกังวลอาจปรากฏขึ้นหลังการบริโภคประมาณ 1 อาทิตย์

ผู้ใช้ทั่วไปบางครั้งอาจพบเหตุการณ์ที่ย้อนไปในภวังค์เดิมๆ เกี่ยวกับเห็ดเมา ซึ่งมักจะแสดงให้เห็นเป็นภาพที่บิดเบี้ยวประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือการรับรู้

เหตุการณ์ย้อนหลังเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้หลายสัปดาห์ เดือน หรือหลายปีหลังการเสพเห็ดเมาครั้งสุดท้าย และอาจทำให้ไม่สงบหรือไม่มีสมาธิจดจ่อได้เหมือนปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนึกถึงภาพหลอนหรือประสบการณ์ที่น่ากลัว

คำแนะนำก่อนการใช้เห็ดเมา

ผลกระทบของสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท(Psychedelic)อย่างเห็ดเมา สามารถเปลี่ยนแปลงและควบคุมได้ตามการควบคุมด้านสภาวะทางอารมณ์ของบุคคล ซึ่งคุณสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นกับเคล็ดลับ Set และ Setting ของเรา

Set: หมายถึงการศึกษานิสัยใจคอของแต่ละคน ประสบการณ์ในอดีตเกี่ยวกับสารที่ทำให้เคลิบเคลิ้มประเภท Psychedelic และความคาดหวังต่อผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าใครรู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลก่อนที่จะกินเห็ดวิเศษ อาจทำให้การเดินทางไม่เป็นที่พอใจ

Setting: คือสภาพแวดล้อมที่ใช้เห็ด ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความคุ้นเคยของสถานที่ การพบปะผู้คน สภาพแวดล้อมในร่มหรือกลางแจ้ง และแม้กระทั่งประเภทของแสงและเพลง ตัวอย่างเช่น การกินเห็ดเมาในบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลายอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับประสบการณ์เชิงบวก(Good Trip) ในขณะที่สภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังและแออัดเกินไปอย่างงานปาร์ตี้ อาจกระตุ้นให้เกิดประสบการณ์เชิงลบ(Bad Trip)

การมีสภาพจิตใจที่แข็งแรง มีเพื่อนที่ไว้ใจได้และอยู่ด้วยในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยก่อนใช้เห็ดเมา จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเจอประสบการณ์แย่ๆที่คุณไม่อยากพบเจอมันอีกในชีวิต

การใช้เห็ดร่วมกับสารผสมอื่น

ผลลัพธ์ของการบริโภคเห็ดเมาร่วมกับสารอื่นๆ รวมถึงยาที่จำหน่ายโดยแพทย์สั่งจ่าย อาจให้ผลลีพธ์ที่คาดเดาไม่ได้และป็นอันตรายได้ การผสมเห็ดวิเศษกับสารกระตุ้น เช่น โคเคน ไอซ์ แม้แต่ยาต้านโรคซึมเศร้าที่แพทย์สั่งจ่าย อาจเพิ่มโอกาสเกิดอาการเชิงลบ(Bad Trip) และกระตุ้นให้ตื่นตระหนกได้

ดังนั้น ผู้ที่ใช้ยาจิตเวชอย่าง ยาต้านโรคซึมเศร้า จึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะรับประทานเห็ดเมาควบคู่กัน เพราะอาจทำให้อาการกำเริบหรืออาการกำเริบได้ ข้อแนะนำของเราคือ ให้คุณหยุดใช้สารผสมอื่นๆร่วมกับเห็ดเมา และทิ้งระยะห่างของทั้ง 2 สาร เกิน 1 สัปดาห์ขึ้นไป จึงจะเริ่มใช้เห็ดเมาอย่างเดียวได้

อาการถอน(ลงแดง)

การใช้เห็ดเมาเป็นประจำดูเหมือนจะไม่ก่อให้เกิดการเสพติดทางกายภาพ ทำให้ไม่น่าเป็นไปได้ที่บางคนจะเลิกใช้เห็ดเมาได้ยาก อาการถอนยาหรือที่ทราบโดยทั่วไปว่า อาการลงแดงมักไม่พบในผู้ใช้เห็ดเมา

กฎหมายไทยกับเห็ดเมา

เห็ดเมาหรือเห็ดวิเศษ(Magic mushroom)นั้น ศัพท์ในบทบัญญัติกฎหมายไทยเรียกว่า เห็ดขี้ควาย(Buffalo dung Mushroom) จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดให้โทษ ซึ่งสำหรับผู้เสพจะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตาม ม.104 และ ม.162 และสำหรับผู้ขายเห็ดเมาจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท ตามลำดับ

Categories: ทั่วไป
X