ยางกัญชาคืออะไร? พร้อมวิธีสกัดจากช่อดอก

ยางกัญชา (Cannabis Resin) คือ เรซินที่ผลิตออกมาจากต้นกัญชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากช่อดอกของต้นกัญชาเพศเมียซึ่งจะมีอวัยวะเรียกว่า glandular trichomes หรือขนคายน้ำยางสีเหลืองอ่อนประกอบไปด้วยสารสำคัญอย่างเทอร์พีนอยด์ฟลาโวนอยด์รวมถึงสาร THC และ CBD โดยปกติแล้วช่อดอกกัญชาจะมีปริมาณ THC ประมาณ 5-20% ส่วนยางกัญชาที่สกัดออกมาจะมีความเข้มข้นของสาร THC สูงถึง 20-60% ด้วยความนิยมในการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และความบันเทิงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์จากกัญชามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเช่นกัน หนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของกัญชาที่มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายคือ “ยางกัญชา” หรือเรซินจากต้นกัญชานั้นเอง

ยางกัญชา คือ

ยางกัญชา (Hashish) มีลักษณะเป็นของเหลวเหนียวสีเหลืองนวลถึงน้ำตาลอ่อน ซึ่งประกอบด้วยสารสำคัญๆ อย่างเทอร์พีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ พร้อมทั้งสารกัญชาหลักๆ อาทิ THC และ CBD ที่มีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาและจิตวิทยาในการรักษาโรคและผ่อนคลายอารมณ์

ยางกัญชาถือเป็นส่วนที่ให้ฤทธิ์แรงที่สุดในต้นกัญชา ซึ่งต้นกัญชาจะสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นระบบป้องกันตัวเองจากศัตรูธรรมชาติ โดยยางกัญชาจะค่อยๆ คายออกมาผ่านรูพรุนเล็กๆ ของอวัยวะ glandular trichomes บนใบ กิ่ง และดอกของต้นกัญชา การสกัดยางกัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวัสดุอุปกรณ์ธรรมดาทั่วไป โดยสกัดออกมาจากดอกกัญชาที่มียางกัญชาเกาะอยู่ปริมาณมาก ก่อนจะนำไปแปรรูปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมันกัญชา ไอโซเลตวาปอร์ ฯลฯ ได้อีกต่อไป

วิธีสกัดยางกัญชาออกจากช่อดอก

วิธีสกัดยางกัญชาออกจากช่อดอกสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยอุปกรณ์ธรรมดาในบ้าน โดยเริ่มจากการเตรียมช่อดอกกัญชาที่มียางกัญชาเกาะอยู่มากๆ จากนั้นให้นำช่อดอกมาร่อนด้วยตะแกรงหรือฟรุตซีฟ จนช่อดอกและใบแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ หลังจากนั้นให้นำเอาวัสดุกัญชาที่ร่อนแล้ววางลงบนผืนผ้าสีเรียบเนื้อละเอียด แล้ววางแผ่นกระจกหรือวัสดุเรียบเย็นทับลงไปด้านบน ปล่อยทิ้งไว้สักพักประมาณ 10-30 นาที ให้ความร้อนจากการสลายตัวของสารเคมีในช่อดอกกัญชาช่วยไล่ยางกัญชาให้คายตัวออกมาเกาะที่แผ่นกระจกด้านบน

เมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว ให้ใช้มีดพลาสติกขูดเก็บยางกัญชาที่เกาะอยู่บนแผ่นกระจกลงในภาชนะที่สะอาด ก็จะได้ยางกัญชาสีเหลืองนวลถึงน้ำตาลอ่อนเหนียวนุ่มสำหรับนำไปแปรรูปต่อได้ตามต้องการ วิธีนี้เป็นการสกัดยางกัญชาด้วยวิธีการแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้สารเคมีหรืออุปกรณ์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับทำที่บ้านหรือแหล่งสกัดขนาดเล็ก ช่วยให้ได้ยางกัญชาที่มีสารสำคัญๆ อย่าง THC, CBD เข้มข้นสูง มาใช้ประโยชน์ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไปได้

ข้อดีของยางกัญชา

  1. มีสารกัญชาสำคัญๆ อย่าง THC และ CBD ความเข้มข้นสูง ทำให้มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและจิตวิทยาที่แรงกว่าส่วนอื่นๆ ของต้น
  2. สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมันกัญชา ไอโซเลทวาปอร์ ได้ง่าย
  3. มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวด ลดอาการวิตกกังวล ผ่อนคลายความเครียด
  4. ใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยาและเครื่องสำอาง
  5. สกัดได้ง่ายด้วยวิธีการธรรมดา ไม่ต้องใช้สารเคมีหรืออุปกรณ์ซับซ้อน

ข้อเสียของยางกัญชา

  1. หากใช้มากเกินไปอาจทำให้มึนงง ประสาทหลอน พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
  2. การสกัดและการใช้ที่ไม่ถูกต้องอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
  3. ความเข้มข้นของสารในยางกัญชาค่อนข้างแปรปรวน ทำให้ยากต่อการควบคุมปริมาณ
  4. เสี่ยงต่อการเกิดพิษภัย หากใช้เกินขนาดหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
  5. ในบางประเทศการใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชาถือว่าผิดกฎหมาย

ยางกัญชากับกฎหมายไทย

ยางกัญชา มีองค์ประกอบสำคัญคือสารเทอร์พีนอยด์ (Terpenoids) สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และสารกัญชาหลักอย่าง THC และ CBD ในปริมาณความเข้มข้นสูง ถือเป็นส่วนที่ให้ฤทธิ์แรงที่สุดของต้นกัญชา ในประเทศไทย กัญชาและยางกัญชาถูกจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 โดยมีกฎกระทรวงกำหนดให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ที่มิได้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จึงห้ามมิให้ผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์หรือการรักษาพยาบาลตามหลักวิชาการ

การประกาศใช้พระราชบัญญัติกัญชากระท่อมพ.ศ. 2565 เปิดช่องทางให้สามารถครอบครองกัญชาและผลิตภัณฑ์กัญชาไว้ได้ภายใต้เงื่อนไขและปริมาณที่กำหนดเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์การศึกษาวิจัยการรักษาพยาบาลหรือเพื่อเป็นวัตถุดิบในทางอุตสาหกรรม ทำให้การสกัดยางกัญชา การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มียางกัญชาผสมอยู่สามารถกระทำได้ แต่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก่อน มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย โดยความผิดที่เกี่ยวกับยางกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีโทษตั้งแต่จำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับแล้วแต่ปริมาณที่ครอบครอง

อ้างอิง: การครอบครอง และการใช้กัญชาภายหลังการปลดล็อก

มาตรฐานและการควบคุมคุณภาพยางกัญชา

เรื่องมาตรฐานและการควบคุมคุณภาพยางกัญชา เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจากยางกัญชาเป็นส่วนประกอบหลักในผลิตภัณฑ์จากกัญชาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นยารักษาโรค อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคอื่นๆ การควบคุมคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ม่ันใจว่าผู้บริโภคจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพคงที่และปลอดภัย

มาตรฐานการผลิตยางกัญชา

  • การเพาะปลูก คัดเลือกสายพันธุ์ ให้ได้กัญชาที่มีปริมาณสารสำคัญตามต้องการ เช่น THC, CBD เป็นต้น การเพาะปลูกต้องมีการควบคุมสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ แสง น้ำ ปุ๋ย อย่างเหมาะสม
  • การเก็บเกี่ยว ทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม มีการรักษาอุณหภูมิ ความชื้น และมาตรฐานความสะอาด
  • การสกัดยาง มีกระบวนการสกัดมาตรฐาน ใช้ตัวทำละลายที่ได้มาตรฐาน มีการควบคุมอุณหภูมิตลอดกระบวนการ
  • การทำให้บริสุทธิ์ ต้องใช้เทคนิคที่ได้มาตรฐาน เช่น การกรอง การกลั่น เพื่อกำจัดสารปนเปื้อน
  • การวิเคราะห์คุณภาพ ต้องทำตามหลักเกณฑ์ทางเคมีหรือวิทยาศาสตร์ เช่น การตรวจหาปริมาณสาร THC, CBD ด้วยเทคนิคทางเคมี ตรวจหาปนเปื้อนจุลชีพ โลหะหนัก สารเคมีตกค้าง ฯลฯ

การควบคุมคุณภาพยางกัญชา

อุตสาหกรรมกัญชาควรมีการกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวด และมีระบบการตรวจสอบคุณภาพที่น่าเชื่อถือ มีการตรวจติดตามในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การแปรรูป จนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป พร้อมทั้งมีการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์สำหรับวิเคราะห์หาสารพิษ สารปนเปื้อนต่างๆ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยต่อผู้บริโภค อีกประเด็นสำคัญคือ ควรมีหน่วยงานกำกับดูแล และการออกใบรับรองสำหรับผลิตภัณฑ์กัญชาที่ผ่านมาตรฐาน รวมถึงความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลกระบวนการผลิต ส่วนประกอบ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมนี้

สรุปแล้ว การควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค และเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์จากกัญชาปลอดภัย มีคุณภาพสม่ำเสมอ และสนับสนุนการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

Categories: ทั่วไป
X