น้ำมันกัญชา หรือ Cannabidiol คือ น้ำมันสกัดสาร CBD ซึ่งเป็นสสารที่ทำงานออกฤทธิ์ต่อประสาท โดยจะแตกต่างกับ สาร tetrahydrocannabinol หรือ THC ที่ไม่ออกฤทธิ์ทางจิต หรือทำให้มึนเมาได้ ซึ่งกระบวนการสกัดน้ำมันกัญชาจะทำโดยการสกัด CBD ออกจากต้นกัญชา และเจือจางด้วยน้ำมันที่เป็นตัวกลางในการย่อยสลาย เช่น ใช้ตัวกลางของน้ำมะพร้าว หรือ น้ำมันเมล็ดพืช
ประโยชน์ของน้ำมันกัญชา หรือ Cannabidiol เป็นที่นิยมในการใช้งานทางการแพทย์เป็นหลัก โดย CBD เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของสสารทางเคมีที่มากกว่า 100 ชนิด กล่าวได้ว่า ในทางการแพทย์พึ่งค้นพบสสารจากกัญชาที่นำมาใช้ประโยชน์ และศึกษาผลลัพธ์ได้เพียงแค่ 2 ชนิด คือ THC และ CBD ทั้งนี้ตัว CBD ที่เป็น cannabinoid หรือ สสารที่มีผลออกฤทธิ์ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของห้วงอารมณ์ทางจิตตัวสำคัญที่พบในกัญชา แตกต่างกับ THC ตรงที่ CBD ไม่ได้ออกฤทธิ์ทางจิตดังที่กล่าวไปในข้างต้น
ด้วยคุณสมบัติของ CBD จากน้ำมันกัญชาเข้มข้นทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยที่กำลังมองหาหนทางรักษาความเจ็บปวดและอาการอื่นๆที่ใกล้เคียง โดยไร้ซึ่งผลกระทบหรือผลข้างเคียงจากสารอื่นที่อยู่ในกัญชา
ขั้นตอนการทำน้ำมันกัญชา
น้ำมันกัญชามีวิธีการทำโดยสกัดสาร CBD ออกจากต้นกัญชา หลังจากนั้นนำไปเจือจางด้วยน้ำมันที่เป็นดั่งตัวกลาง โดยอาจใช้น้ำมันที่ผสมในของอุปโภคยอดนิยมที่วางจำหน่ายทั่วไป เช่น สบู่อาบน้ำ เครื่องดื่ม อาหาร เป็นต้น ซึ่งตัวน้ำมันมหศจรรย์จากกัญชาตัวนี้ ยังช่วยพวกเราเป็นกำลังหลักในการต่อสู้กับการพัฒนาทางการแพทย์อีกด้วย เนื่องจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ ได้กล่าวถึงประโยชน์ของน้ำมันกัญชาอย่าง ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่มีอาการเรื้อรัง อักเสบ รวมถึงความวิตกกังวลของผู้ป่วยในโรคซึมเศร้า แต่อย่างไรก็ได้ มันจะเหมาะกับทุกคนหรือไม่ ต้องตัดสินกับเป็นรายเคสไป
ทำให้บทความเรื่องนี้ จะบอกประโยชน์ของน้ำมันกัญชา 5 ข้อ ที่มีหลักฐานงานวิจัยที่สมบูรณ์และน่าเชื่อถืออ้างอิง รวมถึงแจ้งผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้กับน้ำมันกัญชาเพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณ ดังนี้
ประโยชน์
1. บรรเทาความเจ็บปวดเรื้อรัง
จริงแล้วตัวกัญชานั้นถูกใช้เพื่อรักษาและบรรเทาอาการเจ็บปวดตั้งแต่ 3200 ปีก่อน จากข้อมูล ประวัติกัญชา นั้นพืชอย่างกัญชาได้ถูกพบในตำราทางการแพทย์เก่าแก่ในประเทศจีนและถูกนำพาสู่ประเทศอินเดีย แอฟริกาเหนือ และยุโรป จนมาถึงทุกประเทศทั่วโลก ไม่เว้นแต่ประเทศไทยเราในปัจจุบัน
แต่ไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สมัยใหม่ได้ค้นพบหลักฐานจริงๆว่า CBD มีหน้าที่บรรเทาความเจ็บปวดได้จริง โดยมี รายงานทางการแพทย์ ที่รับรองหลักการว่ามนุษย์เรานั้นมีปฎิกิริยาที่เรียกว่า endocannabinoid ซึ่งปฎิกิริยานี้จะสั่งการให้สมองสามารถควบคุม ความรู้สึกหิว ความเจ็บปวด และสั่งการภูมิคุ้มกันในร่างกายได้
งานวิจัยบางชิ้น ให้รายงานตรงกันว่า CBD “อาจมี” ฤทธิ์ลดอาการปวดบางประเภท รวมถึงอาการปวดเส้นประสาท และอาการยอดนิยมวัยทำงานอย่างการปวดหลัง เมื่อใช้ CBD จากน้ำมันกัญชา อย่างไรก็ตามบางงานวิจัยก็พบว่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ THC ในปริมาณที่พอดี งานวิจัยรองรับการใช้ THC ร่ว CBD ต่ออาการปวดเส้นประสาท ทั้งยังมีงานวิจัยกรณีศึกษาน้ำมันกัญชาหลากหลายชิ้น กล่าวถึงการผสมตัวยาระหว่าง CBD และ THC ยังช่วยลดอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (multiple sclerosis) และโรคข้ออักเสบ (arthritis) อีกด้วย
2. แก้ไขหรือลดโรคด้านสุขภาพจิต
โดยทั่วไปแล้ว ในทางวิทยาศาสตร์ด้านการแพทย์ มักเลือกที่จะจ่ายยาแก่ผู้ป่วยกรณีวินิจฉัยว่ามีอาการทางจิตจริง แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงของยาที่เป็นพิษต่อร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น อาการซึม กระสับกระส่าย ความผิดปกติทางฮอโมนเพศ และปวดหัว ที่มักได้รับผลข้างเคียงแย่ๆจากยาที่ออกมาบนตลาดปัจจุบัน นอกจากนั้นยาทั่วไปบางชนิดยังไม่สามารถใช้ร่วมกับยาบางประเภทได้ นี่คือข้อจำกัดในปัจจุบัน
หากแต่น้ำมันกัญชา จากCBD สามารถแก้ปัญหาผลข้างเคียงเหล่านี้ได้ โดยวิถีทางจากธรรมชาติแทน(Organic)ไม่ใช่การพึ่งพายาจากสารเคมี(chemical)ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากเลือกนิยมใช้น้ำมันCBDอย่างล้นหลาม
แม้ว่าบางงานวิจัยจะพบว่าน้ำมันกัญชาช่วยเพิ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า ในบางคนที่เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มทดลอง แต่หลักฐานของการทดลองที่เกี่ยวกับผลลัพธ์ในการต้านอาการซึมเศร้าของ CBD ในปัจจุบันยังมีไม่เพียงพอที่จะได้ข้อสรุปที่แน่นอนอย่างไรก็ตาม ผลจากงานศึกษาอีกหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าอาจช่วยลดอาการซึมเศร้าในผู้ที่มีความผิดปกติซึมเศร้าผ่านน้ำมันกัญชาได้
3. มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าบรรเทาผลข้างเคียงมะเร็งได้
น้ำมันกัญชาที่มี CBD เข้มข้นและปริมาณที่เหมาะสมนั้นอาจช่วยลดอาการที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งและผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็งได้ เพราะว่า ผลข้างเคียงของอาการมะเร็งอาจอันตรายกับผู้ป่วยได้มากกว่าตัวเนื้อร้ายเองซะอีก กล่าวคือ อาการจิตตก อคลื่นไส้ อาเจียน ความปวด
จากการงานวิจัยศึกษาถึงผลกระทบของน้ำมันกัญชาที่มี CBD และ THC จากจำนวนกลุ่มทดลอง 177 คน ใช้น้ำมันกัญชาลดอาการปวดจากผลข้างเคียงของโรคมะเร็งโดยไม่ได้พึ่งพายาแก้ปวดเลย ทำให้ทราบว่าผู้ที่รับการรักษาจากสารสกัดน้ำมันกัญชาที่มีสาร cbd,thc ทั้งสองควบคู่ มีอาการปวดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับสารสกัดอื่นๆจาก THC เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำมันกัญชาอาจมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นมะเร็งบางกลุ่มในตัวอย่างการทดสอบ แต่ก็จำเป็นต้องมีการคำนวณถึงความเสี่ยงกับผู้ใช้น้ำมันกัญชาเป็นประจำว่าต้องใช้ ต่อเนื่อง และยาวนานเท่าใด เพราะ อาจมีผลกระทบในระยะยาวเป็นอาการเสพติดกัญชาต่อไปได้*
4. เสริมสร้างและป้องกันระบบประสาท
มีกลุ่มนักวิจัยน้ำมัน CBD เชื่อว่าความสามารถของน้ำมันกัญชา ในการออกฤทธิ์ต่อระบบ endocannabinoid และระบบบ่งสัญญาณสมองอื่นๆ (brain-signaling systems) อาจให้ประโยชน์กับผู้ที่มีความผิดปกติทางระบบประสาท อันได้แก่ โรคลมบ้าหมู และโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งจาก งานวิจัยโดย Peter Flachenecker พบการลดอาการชัดกระตุกกล้ามเนื้อ 75% ของ 276 คนบนกลุ่มทดลอง และในปี 2020 ตัวยา Epidiolex ที่ได้ใช้สารสกัดของ CBD ทำงานนั้นได้รับการอนุมัติจาก FDA องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาในการรักษาอาการชักมัดกล้ามเนื้อในเด็ก ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่หายาก ซึ่ง CBD ระงับการทำงานของเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรงไม่ให้เติบโตต่อไปได้
5.ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงขึ้น
ดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมด จนถึงข้อ 5. ยังพบงานวิจัยต่างชาติอีกจำนวนหนึ่งที่รับรองให้ CBD เกิดประโยชน์โดยตรงกับหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด รวมถึงสามารถช่วยต้านภาวะความดันโลหิตสูง ที่มักส่งผลเกี่ยวเนื่องกับภาวะสุขภาพแทบทุกประการ ตั้งแต่โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และกลุ่มอาการเมตาบอลิซึมบกพร่อง รับรองหลักการนี้ด้วย กลุ่มทดลองขนาดเล็กกับน้ำมันกัญชา โดยให้ เพศชายที่มีสุขภาพดี 9 คนได้รับการใช้น้ำมันกัญชา 600 มก. ปรากฎผลว่า ช่วยลดความดันโลหิตขณะพักได้จริง
สรุป
น้ำมันกัญชา และหลักฐานประโยชน์ของน้ำมันกัญชาเหล่านี้ ได้รับการรับรองจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ ตั้งแต่ในศักยภาพเพื่อบรรเทาอาการสุขภาพทั่วไป (อาการทางกายภาพ) ของคนเราได้หลากหลาย จนไปถึงความวิตกกังวลและความผิดปกติทางระบบประสาท (อาการทางจิต) แต่โปรดทราบว่าข้อมูลทั้งหมดที่พิสูจน์ว่าน้ำมันกัญชาเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งหมดในบทความนี้เกี่ยวข้องกับ การใช้ CBD ร่วมกับ THC ไม่ใช่ CBD เพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ทำให้ ท่านไม่สามารถสกัดน้ำมันกัญชาได้เอง เนื่องจากต้องมีการ คำนวณที่เหมาะสมและต้องการทำการด้วยเครื่องมือทางการแพทย์และหลักการทางวิทยาศาสตร์ขึ้นสูงเท่านั้น แตกต่างกับ วิธีทำเนยกัญชาที่บ้านเอง(homemade) ที่เราได้นำเสนอ หากต้องการใช้น้ำมันกัญชาเพื่อรักษาหรือเยียวยา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ร่วมด้วยทุกครั้ง และจงเลือกน้ำมันกัญชาที่ได้รับมาตรฐานรับรองจากภาครัฐเท่านั้น